วันจันทร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แรงจูงใจสู่ความสำเร็จ ตอน 2

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ เคยลองถามตัวเองมั๊ยคะว่า ทำไมตื่นเ้่ช้าขึ้นมาจึงต้องรีบร้อนแต่งตัวไปทำงาน เราไปทำงานกันทำไม เพื่ออะไร เพื่อใคร

มีหลาย ๆ คนค่ะ ที่ตอบว่า ก็เพื่อสิ่งที่ใฝ่ฝันไว้ นั่นก็คือ ความสำเร็จ ในชีวิตงัยล่ะ

แต่ก็ีมีบางคนที่ท้อถอย เหนื่อยล้า เราจึงต้องมาหาแนวทางในการสร้างแรงจูงใจ จุด ไฟ ในการทำงานขึ้นใหม่อีกครั้ง

1. จัดการกับความใฝ่ฝันอย่างชาญฉลาญ

นั่นก็คือเพื่อน ๆ จะต้องทำงานค่ะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำงานแบบหักโหมนะคะ แต่เพื่อน ๆ จะต้องนึกถึงสิ่งที่ใฝ่ฝันไว้ค่ะ นั่นจะทำให้นำไปสู่ความสำ้เร็จที่เื่พื่อน ๆ คาดหวังเอาไว้ได้ และก็ยังช่วยให้เืพื่อน ๆ สามารถแสดงฝีมือและผลงานเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่หัวหน้า หรือนายจ้าง ได้ค่ะ


2. วางแผนเส้นทางสู่ความสำเร็จ

การที่เพื่อน ๆ จะสร้างแรงจูงใจในการทำงานนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อน ๆ กำหนดเป้าหมายในอาชีพแล้วหรือยัง หรือเีพียงแค่ทำงานแต่ละวัน ๆ ให้ผ่านไปเท่านั้นเอง ความทะเยอทะยานสู่ความสำเ้ร็จของเพื่อน ๆ นี่แหละค่ะ ที่จะทำให้เืพื่อน ๆ มีการวางแผนเส้นทางสู่ความสำเ้ร็จ โดยแผนนั้นควรมีการตั้งเป็นคำถามและคำตอบไว้อย่างชัดเจนเสียก่อน เพื่อน ๆ กำหนดเป้าหมายในอาชีพและวางแผนเพื่อให้ไปสู่เป้าหมายนั้นอย่างไร เส้นทางที่จะดำเนินไปนั้นมีความชัดเจนเพียงใด มีโอกาสเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน และต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ เพื่อน ๆ ก็จะสามารถกำหนดทิศทางและวิธีการเดินทางไปถึงจุดหมายได้อย่างตรงทาง


3. หาความรู้รอบตัวมาประยุกต์ใช้

เพื่อน ๆ มีบุคคลที่เป็นแบบอย่างในการดำเนินชีวิตรึเปล่าคะ บุคคลที่เพื่อน ๆ ชื่นชมอยากเป็นได้แบบเขา เพื่อน ๆ คิดว่าเขาเหล่านั้นทำทุกสิ่งทุกอย่างได้ด้วยตัวเขาเองหรือเปล่าคะ เปล่าเลย มนุษย์เป็นสัตว์สังคมค่ะ ไม่มีใครทำอะไรได้ทุกอย่างด้วยตัวเองทั้งหมดหรอกค่ะ หากเพื่อน ๆ ไม่รู้ว่าจะทำบางสิ่งบางอย่างได้อย่างไร ก็สามารถเก็บเกี่ยวความรู้ได้จากรอบ ๆ ตัวของเพื่อน ๆ นี่แหละค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงาน เพื่อนฝูง หนังสือ เว็บไซด์ต่าง ๆ หรือแม้แต่จากตัวละครในทีวีค่ะ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ แล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะกับตัวของเพื่อน ๆ เอง การเรียนรู้จากความผิดพลาดของพวกเขาจะช่วยให้เพื่อน ๆ ประหยัดเวลาในการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง และช่วยให้เพื่อน ๆ ประสบความสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้นค่ะ


4. แบ่งขอบเขตเรื่องงานกับเรื่องอื่น ๆ ทีี่สำคัญ

เพื่อน ๆ เคยเป็นบ้างรึเปล่าคะ ประเภทแบบตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยที่ไม่สนใจเรื่องอื่น ๆ เลย จนลืมดูแลสุขภาพของตัวเอง ลืมเรื่องครอบครัว หากเป็นเช่นนั้น เพื่อน ๆ ควรแบ่งขอบเขตให้ชัดเจนว่าเวลาไหนคือเวลาทำงาน เวลาพัก เวลาส่วนตัว เวลาในการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน การที่จะเป็นที่ยอมรับของผู้อื่นได้นั้นต้องเข้าใจว่าทุกคนในทีมล้วนมีความสำัคัญ เพื่อน ๆ ควรรู้จักที่จะส่งต่อให้เพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ ยอมรับและเห็นความสำคัญของบุคคลอื่นด้วย เพราะเพื่อน ๆ ไม่อาจฉายเดี่ยวคนเดียวในงานทุกชิ้นได้


5. อย่าหยุดพัฒนาตนเอง

หากเพื่อน ๆ มีการพัฒนาทักษะต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อน ๆ ก็จะเจริญเติบโตในหน้าที่การงานอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ในบางครั้งที่เพื่อน ๆ มีงานล้นมือ ทำเท่าไหร่ก็ไม่จบไม่ิสิ้นซักที จนทำให้ไม่มีเวลาในการเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ หรือพัฒนาทักษะที่มีอยู่แล้วให้สูงขึ้น เพื่อน ๆ ต้องอย่าลืมที่จะวางแผนในการให้เวลากับการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้เพื่อน ๆ เป็นบุคลากรที่มีคุณค่าสำหรับหน่วยงานและสำหรับสังคมตลอดไปค่ะ


ถึงแม้ว่าเพื่อน ๆ จะมีช่วงเวลาที่รู้สึกว่าท้อแท้ ท้อถอย หมดกำลังใจในเรื่องการทำงานตามแผนการตลาดยูนิซิตี้ หรือเรื่องใด ๆ ก็แล้วแต่ หากเพื่อน ๆ ยังมี ฝัน เพื่อน ๆ ก็จะมี พลัง ที่จะทำฝันของเพื่อน ๆ ให้กลายเป็นจริง นั่นก็คือ ความสำเ้ร็จ ได้ค่ะ

เพื่อน ๆ สามารถเพิ่มทักษะต่าง ๆ เพื่อการ พัฒนาตัวเอง ได้จาก link ด้านล่างนี้ค่ะ


วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แรงจูงใจสู่ความสำเร็จ ตอน 1

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ เคยมีความรู้สึกแบบนี้บ้างมั๊ยคะ ตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ พร้อม ๆ กับความรู้สึกเบื่อหน่ายกับกิจวัตรที่จะต้องทำในเช้าวันนั้น รู้สึกไม่อยากไปทำงาน หรืออยากเปลี่ยนงานใหม่ เบื่อไม่อยากเห็นหน้าใครบางคน เบื่อการเดินทาง การจราจร หรืออีกหลาย ๆ ความคิดในลักษณะเชิงลบ

ดิฉันคิดว่าเพื่อน ๆ จะต้องเคยมีความรู้สึกแบบนี้แน่ ๆ เลย เพื่อน ๆ ทราบมั๊ยคะ ว่านี่คือสัญญานที่กำลังจะบอกเราว่า ชีิวิตของเราเริ่มจะมีปัญหาแล้วละค่ะ

ไฟ หรือพลังในการใช้ชีิวิตประจำวัน หรือในการทำงานของเพื่อน ๆ กำลังลดลง และมันจะลดลงเรื่อย ๆ หากเพื่อน ๆ ไม่รีบหาทางแก้ไข

เพื่อน ๆ จะต้องสร้างแรงจูงใจ หรือ สร้างพลัง เพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไปได้อย่างมีความสุข

ก่อนอื่น เพื่อน ๆ ควรทราบถึงสาเหตุ หรือที่มาของแรงจูงใจเ๋ป็นลำดับแรก เพื่อจะได้หาวิธีในการสร้างแรงจูงใจให้เกิดขึ้นต่อไปได้ ซึ่งมีดังต่อไปนี้ค่ะ

1. ความต้องการ เป็นลักษณะของการขาดสมดุล ก็เลยทำให้เกิดแรงจูงใจให้แสดงพฤติกรรมบางอย่างเพื่อสร้างความสมดุลให้ตัวเอง เช่น
  • คนที่รู้สึกเหนื่อยล้า จะแสดงพฤติกรรมด้วยการนอน หรือนั่งพัก หรือเปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนอิริยาบถ ดูหนังฟังเพลง ฯลฯ
  • คนที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว จะมีความต้องการความรักความสนใจจากผู้อื่น ก็จะแสดงพฤติกรรมบางอย่าง เพื่อให้ได้รับความรักความสนใจ เช่น ส่งเสียงดังร้องไห้ ฯลฯ


2. สิ่งล่อใจ เป็นสิ่งที่ชักจูง หรือจูงใจให้แสดงพฤติกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้ไปสู่เป้าหมายหรือจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ สิ่งล่อใจนั้นอาจจะเป็นวัตถุ สัญลักษณ์ หรือคำพูดที่ทำให้เกิดความพึงพอใจ เช่น

  • ตัวเงิน เช่น เงินเดือน ค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา โบนัส ตลอดจนสวัสดิการต่าง ๆ
  • การประกาศเกียรติคุณ หรือการจัดสรรรางวัลในการคัดเลือกพนักงาน หรือบุคคลดีเด่นประจำปี


3. การตื่นตัว เป็นภาวะที่เป็นการเตรียมพร้อมที่จะแสดงพฤติกรรม สมองพร้อมที่จะคิด กล้ามเนื้อพร้อมที่จะเคลื่อนไหว เช่น
  • นักกีฬาที่ต้องอุ่นเครื่องก่อนเพื่อพร้อมสำหรับการเล่นกีฬา หรือการแ่ข่งขัน
  • พนักงานต้อนรับ เตรียมพร้อมที่จะให้บริการแก่ลูกค้า
ลักษณะดังกล่าวนี้เปรียบเสมือนเครื่องยนต์ที่ติดเครื่อง และพร้อมที่จะทำงาน นั่นเองค่ะ


4. การคาดหวัง เป็นการตั้งความปรารถนา หรือการพยากรณ์ล่วงหน้าของเพื่อน ๆ ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
ซึ่งในความเป็นจริงนั้นก็อาจจะสมหวัง หรือผิดหวังก็ได้ เช่น
  • อยากหุ่นดี หุ่นสวย ก็ต้องควบคุมเรื่องอาหาร รับประทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ ลดอาหารประเภทไขมัน
  • อยากขับรถยนต์เป็น ก็ต้องมีความกระตือรือร้นในการหัดขับรถ มีความเชื่อมั่น กล้าตัดสินใจที่จะเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือจะแซงรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้า
  • อยากซื้อบ้านสักหลัง ก็ต้องทำงานมาก ๆ เก็บเงินให้ได้เยอะ ๆ

ทั้ง 4 ข้อนี้ ก็คือ ที่มาหรือสาเหตุของแรงจูงใจในการทำภารกิจต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันของเพื่อน ๆ ค่ะ

คราวหน้า เราจะมาทราบกันนะคะว่า แล้วเราจะมีแนวทางในการเสริมสร้าง แรงจูงใจ หรือจะสร้าง ไฟ ในการดำรงชีวิตประจำวัน หรือในการทำงานตามแผนการตลาดยูนิซิตี้ หรือการทำงานใด ๆ ทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จในชีวิตของเพื่อน ๆ ค่ะ

เพื่อน ๆ สามารถศึกษา้ข้อมูลเพิ่มเติม ได้จาก Link ด้านล่างนี้ค่ะ







วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

พลังใจสู่การทำแผนการตลาดยูนิซิตี้

คนเราโดยทั่วไป ถ้าไม่มีหลักธรรมเป็นที่พึ่งยึดถือในการดำรงชีวิตแล้ว เมื่อประสบความทุกข์ พบกับอุปสรรค ก็จะเคว้งคว้างเหมือนว่าวที่ขาดลอย

ความทุกข์นั้นเปรียบเสมือนไฟ ซึ่งมีความกังวลเป็นเชื้อไฟ ถ้าเรามีความทุกข์ อย่าไปกังวลว่าจะทุกข์อย่างไร หรืออุปสรรคจะมากมายเพียงใด เราจะไม่ขยายความทุกข์นั้น เพราะจะทำให้เราเพิ่มความกังวลหวาดวิตกยิ่งขึ้น

สรรพสิ่งที่เกิดขึ้นย่อมมาจากเหตุ ความดีเป็นผลที่มาจากเหตุทั้งสิ้น ทำดีผลก็ย่อมดีแน่นอน

ดังนั้นคนเราจึงควรทำเหตุให้ดี คือ การทำใจให้มีพลัง ซึ่งทำได้ด้วยการฝึกจิตเป็นสมาธิตั้งมั่น เกิดปัญญาที่จะนำไปสู่การแก้ไขเหตุแห่งความทุกข์ให้หมดสิ้นไปได้ เหมือนดั่งเรือที่แล่นออกสู่ทะเลมหาสมุทร เมื่อเจอมรสุม ก็ต้องหามุมหลบเสียก่อน เมื่อมรสุมหมดแล้วจึงแล่นเรือต่อไป

คนเราทุกคนต่างก็ปรารถนาความสำเร็จ ความก้าวหน้าในชีวิตด้วยกันทุกคน แต่บางครั้งกว่าจะได้มา ก็ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตา บางครั้งต้องแลกด้วยชีวิต

แต่เหตุการณ์เหล่านี้ มิไ้ด้เป็นอุปสรรคที่จะขวางกั้นทางสำเร็จของบุคคลที่มีความมุ่งมั่นอย่าง จริงจัง เพราะเหตุว่า "ใจ" ที่มีพลังเต็มเปี่ยม จะทำให้เอาชนะอุปสรรคทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย

อุปสรรค...เป็นเพียงภาพหลอน ที่เราสร้างขึ้นมา

อุปสรรค...จะเป็นบันไดที่จะพาเราก้าวไปสู่ความสำเร็จ

อุปสรรค
...เป็น สิ่งเสริมที่ทำให้ชีิวิตมีชีวาขึ้น

คนเราถ้าต้องการประสบความ สำเร็จ ต้องไ่ม่กลัวลำบาก และต้องเตรียมใจไว้ให้พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ทุกชนิด ไม่ว่าจะดีหรือร้ายก็ตาม

เมื่อตั้งใจจะทำสิ่งใด จงทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ และทำให้ดีที่สุด

อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านพ้นไป แล้ว คงเหลือไว้แต่ปัจจุบันที่เราจะต้องก้าวต่อไป เพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางที่แท้จริงให้ได้

"อุปสรรคมีไว้ให้ข้าม
เป้าหมายเป็นหลัก

อุปสรรคเป็นรอง"


เอาละค่ะ มาถึงตอนนี้ ดิฉันคิดว่าเพื่อน ๆ มีพลังใจที่พร้อมสำหรับการทำธุรกิจเครือข่ายตามแผนการตลาดยูนิซิตี้ เอมสตาร์ เอเจล หรือบริษัทใด ๆ ก็แล้วแต่ ที่เพื่อน ๆ กำลังทำธุรกิจอยู่

สิ่งที่จะต้องเตรียมความพร้อมต่อไป ก็ค การวางเป้าหมายให้ชัดเจน

เมื่อพลังใจของคุณพร้อ่มแล้ว เป้าหมายของคุณก็มีแล้ว สิ่งสำคัญต่อไปที่คุณจะต้องเริ่มให้เร็วที่สุด นั่นก็คือ การเรียนรู้ระบบงานที่ถูกต้อง

คนที่เริ่มทำธุรกิจใหม่ ๆ ทุกคน ต่างก็ไม่มีประสบการณ์มาก่อนเช่นเดียวกันกับเพื่อน ๆ นั่นแหละค่ะ เพื่อน ๆ จะต้องรู้ว่าแผนการตลาดที่เลือกทำนั้นเป็นอย่างไร สินค้ามีกี่ประเภท อะไรบ้าง เงื่อนไขในการจ่ายผลตอบแทนเป็นอย่างไร มีวิธีการสร้างเครือข่ายและทีมงานอย่างไร

สิ่งเหล่านี้ คือ สิ่งที่เพื่อน ๆ จะต้องเริ่มต้นเรียนรู้อย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเรื่องวิธีการสร้างเครือข่ายและทีมงานนั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ในการทำธุรกิจเครือข่ายของเพื่อน ๆ ค่ะ

ปัญหาที่สำคัญมาก ๆ ของผู้ที่ทำธุรกิจเครือข่ายแล้วประสบความล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่านั้น ก็คือ เราเรียนรู้วิธีการเข้าหาคน....แต่เรากลับไม่ได้เรียนรู้วิธีการทำให้คนเดินเข้ามาหาเราเลย....

การวิ่งเข้าหาผู้อื่น โดยไม่ตระหนักว่าตัวเองนั้นมีแรงดึงดูดเพียงพอหรือไม่ นี่แหละค่ะ คือต้นเหตุแห่งความล้มเหลวในการทำุธุรกิจเครือข่าย

ฉะนั้น สิ่งที่เพื่อน ๆ จะต้องเรียนรู้เป็นอันดับแรกในการสร้างเครือข่ายและทีมงานนั้นก็คือ วิธีการสร้างแรงดึงดูดให้กับตัวเพื่อน ๆ เอง เพื่อให้ผู้อื่นวิ่งเข้ามาหาเพื่อน ๆ เพื่อขอร่วมทำธุรกิจเครือข่ายด้วย

ซึ่งความรู้ในการสร้างแรงดึงดูดทั้งหมดนี้ ได้ถูกรวมไว้ใน E-Book ที่ชื่อว่าคัมภีร์แรงดึงดูดเรียบร้อยแล้วค่ะ

เพื่อน ๆ สามารถขอรับ E-Book ทาง Email ได้ฟรี เพื่อศึกษาวิธีการทำธุรกิจตามแผนการตลาดอย่างเป็นระบบ และถูกต้อง ได้ที่ Link ด้านล่างนี้ค่ะ